วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

การปลูกต้นสาวน้อยประแป๋ง

การบ้านให้นักเรียนเขียนรายงานการปลูกไม้ประดับในกระถางให้นักเรียนนำอุปกรณ์ในวันอังคาร ที่29 มิถุนายน พ.ศ.2550
การปลูกต้นสาวน้อยประแป๋ง
สาวน้อยประแป้ง เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงดูแลรักษาง่าย ต้องการแสงแดดหรือแสงสว่างมากแต่ก็สามารถเจริญงอกงามได้ดีในที่มีแสงแดดรำไร แต่ถ้าให้ถูกแสงแดดโดยตรงจะทำให้ใบไหม้ได้ หากได้รับแสงเพียงด้านใดด้านหนึ่งจะทำให้ต้นเอียงไปทางด้านที่มีแสงมากกว่า ชอบสภาพดินฟ้าอากาศที่มีความชื้นสูง แต่บางชนิดก็สามารถปรับตัวให้อยู่ในที่มีความชื้นในอากาศปานกลางได้ได้ สำหรับดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินที่มีส่วนผสมของอินทรีย์วัตถุ ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก ระบายอากาศ ระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำขังแฉะหรือแห้งเร็วเกินไป ปุ๋ยเคมีควรใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 10-10-10, 15-15-15 ในปริมาณน้อยๆ หรืออาจใช้ปุ๋ยละลายช้าเพื่อค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่ต้นก็
ได้

การปลูกดอกกระเจียว



ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cercuma alismatifolia Gagnep
ชื่อไทย : กระเจียว , ปทุมมา , บัวสวรรค์ ชื่อสามัญ : Siam Tulip , Patummaชื่อการค้า : Curcuma Sharome สกุลย่อย : Paracurcumaกลุ่ม : Patummaทรงต้น : คล้ายกล้วยถิ่นกำเนิด : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ลักษณะทั่วไป : - ทรงพุ่มสูงประมาณ 55 เซนติเมตร กว้างประมาณ 50 เซ็นติเมตร ลำต้นเทียมสูงประมาณ 30 เซ็นติเมตร - ใบ กาบใบสีเขียวโคนสีแดง ก้านใบยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร ใบเป็นรูปรีค่อนข้างแคบ กว้าง 7.5 เซ็นติเมตร ยาว 32 เซ็นติเมตร แผ่นใบเรียบไม่มีขน บริเวณเส้นกลางใบอาจมีสีแดง ไม่มีเส้นลอย- ดอก ช่อดอกเกิดจากปลายลำต้นเทียม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 50 เซ็นติเมตร ใบประดับสีเขียว บางครั้งอาจมีสีม่วงชมพูแต้มบ้าง ใบประดับไม่มีขน ขนาดกว้างประมาณ 2 เซ็นติเมตร ยาว 2.5 เซ็นติเมตร ใบประดับส่วนบนมีสีชมพูอมม่วง กว้าง 3.2 เซ็นติเมตร ยาว 5.5 เซ็นติเมตร จำนวนใบประดับส่วนบนจะแตกกันตามพันธุ์ และความสมบูรณ์ของต้น ดอกสีขาวปากสีม่วง ปากมีสันตามแนวยาว 2 สัน ด้านในของสันเป็นสีเหลือง กลีบสเตมิโนดมีสีขาวขนานกัน อับละอองเรณูป่องตลอดอัน
การขยายพันธุ์ : การเพาะเมล็ด , การแยกเหง้า , การผ่าเหง้า , การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสภาพปลูกที่เหมาะสม : ดินร่วนระบายน้ำดี อินทรีย์วัตถุสูง แสงจัด ประโยชน์ : ไม้ตัดดอก ไม้ดอกกระถาง ไม้ดอกประดับแปลงจำนวนโครโมโซม ( 2n ) : 32เวลาพร้อมผสม : 07:30 - 10:00 นาฬิกา
ประโยชน์และสรรพคุณ :ดอกกระเจียวทานได้ ให้นำดอกอ่อนมาลวกจนสุกจิ้มกับน้ำพริก หรือจะกินดอกสดก็ได้ บางบ้านนิยมนำมาทำแกงส้ม หรือไม่ก็นำมาแกล้มกับขนมจีน ลาบ ก้อยดอกกระเจียวมีรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด

การปลูกพริกขี้หนู


การปลูกพริกขี้หนู
การเพาะกล้าพริกขี้หนู
เตรียมดินละเอียดผสมปุ๋ยคอก ใส่ในภาคเพาะ
หยอดเมล็ดพริกขี้หนูหลุมละ 1-2 เมล็ด โดยใช้ไม้จิ้มผลไม้กดเป็นรูก่อน
กดดินราดหน้าหลุมแล้วรดน้ำ ควรป้องกันมด แมลงคาบเมล็ดโดยใช้ปูนขาวโรยเส้นรอบรูปล้อมถาดไว้
หลังเพาะ 7-10 วันเมล็ดเริ่มงอกหมั่นรดน้ำจนกระทั่ง 25-30 วันจึงย้ายกล้าปลูกลงกระถาง หรือแปลงปลูก
การเตรียมแปลง
ควรเตรียมดินปลูกโดยใช้จอบขุดย่อยดินให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยคอกหว่านและคลุกเคล้าให้เข้ากับดินในแปลง
ในกรณีปลูกในกระถางให้ผสมดินปลูกในกระถางโดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1
การดูและรักษา
1. ย้ายกล้าพริกลงแปลงปลูกหรือกระถาง
2. รดน้ำทุกวันในช่วงติดผลระวังอย่าใช้ขาดน้ำ
หลังย้ายลงแปลงปลูก 7-10 วันใส่ปุ๋ย15-15-15อัตราตัน

การปลูกบอนไซ


:: การเลี้ยงและดัดให้ได้รูปทรง::
ในที่นี้จะอธิบายถึงการเลี้ยงและดัดรายละเอียดให้ได้รูปทรง สำหรับต้นไทรจีนต้นนี้เป็นไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศจีนมีโคนต้นที่สวยรากออกรอบต้น แต่รายละเอียดของกิ่งไม่เหมาะสม มีกิ่งที่ยาวเกินไปไม่ได้สัดส่วน ดังนั้นจึงตัดให้สั้นลงเพื่อเลี้ยงรายละเอียดใหม่ ให้มีความสมดุลเหมาะสมกับลำต้นและต้องการเลี้ยงให้จบเร็ว ในระยะเริ่มต้น ควรเลี้ยงในกระถางที่ใหญ่ก่อน เพื่อจะให้ไม้ที่จะเลี้ยงได้ดินมาก ๆ ดินที่ใช้ปลูกควรร่วนซุย สำหรับต้นไทรนี้จะเป็นดินขุยไผ่ก็ได้ ดินควรเป็นเม็ดหากดินละเอียดจะจับตัวเป็นเนื้อเดียวกันเร็วกว่าดินที่เป็นเม็ด ดินควรมีส่วนผสมของดินเผาหรือกระถางที่ทุบให้เป็นเม็ด เพื่อจะช่วยให้ดินไม่จับตัวเป็นเนื้อเดียวกันและยังดูดซับน้ำไว้ ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา และควรตัดตุ้มไม้ให้บางจนถึงราก แต่ต้องมีรากพอสมควรหากในอนาคตเราเปลี่ยนใส่กระถางบางจะได้ไม่มีปัญหา เพราะถ้าไม่ตัดให้บางไว้แต่แรกแล้วไปตัดตุ้มให้บางในภายหลังอาจทำให้ตายได้ และไม่ควรใส่ปุ๋ยสำหรับไม้ปลูกใหม่
1. คัดเลือกกิ่งหลักของบอนไซไว้ ตัดให้สั้นลงมาเพื่อให้กิ่งใหม่แตกรายละเอียดออกมา
2.หลังจากตัดกิ่งประมาณ 2 เดือน กิ่งที่เราตัดไว้ก็จะแตกกิ่งออกมาจำนวนมากก็ให้คัดเลือกกิ่งที่ต้องการไว้ โดยกิ่งที่เลือกต้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกัน สลับกันไปซ้ายขวา ใช้ลวดเล็กประคองกิ่งที่คัดเลือกไว้แล้วดัดให้คดงอสลับกันไปซ้ายขวา
3.หลังจากที่คัดเลือกกิ่งประมาณ 2 เดือน กิ่งรายละเอียดที่คัดเลือกก็ใหญ่ขึ้นและแตกรายละเอียดออกมา
4.อีก 2 เดือนต่อมาตัดใบออกให้หมดเปลี่ยนดินจะเปลี่ยนกระถางหรือไม่ก็ได้ก็ ไม้จะมีรายละเอียดมากขึ้น เข้าลวดรายละเอียดของกิ่งที่คัดเลือกไว้ในลักษณะสลับกันไปซ้ายขวา
5.หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ไม้เริ่มแตกใบ
ซึ่งจากการเลี้ยงมานี้ใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีแล้วก็รอให้กิ่งใหญ่ขึ้นและแตกรายละเอียดมากขึ้นทำตามข้อ 2- 4 ต่อไป ก็จะได้รายละเอียดมากขึ้น และไม้ยิ่งสวยมากขึ้น ไปตามระยะเวลาที่เลี้ยง
1 เดือนต่อมา

การปลูกถั่วงอก



การเพาะถั่วงอก EM
ถั่วงอกเป็นอาหารคู่ครัวของคนไทย เช่น เป็นเครื่องเคียง ก๋วยเตี๋ยว น้ำ, แห้ง, ผัดไทย, ขนมจีนน้ำยา, หอยทอด, ข้าวยำปักษ์ใต้ ฯลฯ คนไทยมีวิธีเพาะถั่วงอกหลายวิธี เช่น การใส่โอ่ง หมกทราย หมกขี้เถ้าแกลบ ใส่ปี๊ป และอีกสารพัด แต่ละวิธีก็ได้ถั่วงอกออกมาลักษณะที่แตกต่างกัน สั้นบ้าง ยาวบ้าง ผอมบ้าง หรืออวบอัด แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป บางท่านคงเคยนึกรังเกียจรากที่รุงรังของถั่วงอก ต้องเสียเวลาเด็ดทิ้ง หรือตามภัตตาคารต่างๆ เวลาจะนำมาประกอบอาหารก็ต้องเด็ดรากทิ้ง เพื่อความสวยงาม แต่วันนี้ขอนำเสนอ วิธี เพาะถั่วงอก โดยใช้อุปกรณ์ในการเพาะที่ง่ายที่สุด ถั่วงอกอวบอ้วน เก็บไว้ได้นานโดยใช้จุลินทรีย์ EM
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการเพาะถั่วงอก
ขวดพลาสติกขวดน้ำหรือขวดโค๊ก เปล่าๆ
เจาะรูที่ก้นขวด 1 รู
เมล็ดถั่วเขียวไม่อบ
นมสด และ EM
ถาดรองขวด
กระดาษห่อขวด
วิธีทำ
นำถั่วเขียวแช่น้ำร้อน 20-30 นาที
หลังจากถั่วเขียวที่แช่ไว้เย็นแล้ว รินน้ำออกใส่น้ำสะอาดลงไปและผสม EM 1-2 ฝา แล้วแช่ทิ้งไว้ 3 ชม.
แล้วนำถั่วเขียวที่แช่ไว้บรรจุขวดพลาสติกปริมาตร 1/5 ของขวดที่เราใช้เป็นภาชนะเพาะ
วางขวดลงบนภาชนะหรือถาดรอง
ขวดห่อด้วยหนังสือพิมพ์ไม่ให้แสงเข้า ซุกไว้ในที่มืด
นำ EM 2 ฝา ผสมนมสด 2 ฝา ต่อน้ำสะอาด 1 บัว แล้วคนให้เข้ากัน
นำไปใส่ขวดที่มีถั่วเขียวบรรจุอยู่ทุกๆ 4 ชม.
น้ำที่ลงมาถาดรองก็นำมาใช้ได้อีก 2 ครั้ง จึงผสมใหม่